ว่าด้วยจักรวาล MV มหากาพย์ของ Stray Kids
นี่คือบทสุดท้ายของการเดินทางภาคแรก
เหตุการณ์ดำเนินต่อจาก Trailer ตอนที่แล้ว
Stray Kids มารวมกันกลางสี่แยกในเมืองยามค่ำคืน
เข็มทิศในมือฟิลิกซ์หมุนคว้าง แล้วชี้ตรงไปยังทิศหนึ่ง
เมื่อทุกคนมองตามไป ก็พบว่ามีประตูบานใหม่ปรากฏขึ้นมาอย่างงดงาม
ภาพซูมผ่านรูกุญแจออกไปยังแสงสว่างเบื้องหน้า
หลังบานประตูที่พวกเขาผ่านเข้าไป คือทุ่งสีชมพูม่วงเวิ้งว้าง และท้องฟ้าเฉดเดียวกัน ราวกับทิวทัศน์ในตอนท้ายของ MV Hellevator
Stray Kids อยู่ในชุดธีม earth tone (ต่างไปจากชุดธีมขาวดำก่อนเข้าประตูมา)
ต่างคนต่างหันมองบรรยากาศรอบๆ ตัว
ซีนเต้นเริ่มต้นจาก Stray Kids ที่เต้นบนกระจก ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีชมพูม่วงนั้น
จากจุดนี้จะเห็นว่า ฮัน ในฉากทุ่งสีชมพูม่วงนี้ คือคนที่ซึงมินใน Levanter Trailer พบเจอผ่านลิฟต์ Hellevator
เราตีความได้ว่านี่คือมิติในอนาคตที่ซึงมินใน Trailer มองเห็น และทั้งคู่ปฎิสัมพันธ์กันได้ (กำลังยื่นมือมาหากัน แต่ลิฟต์ออกอาการประท้วงซะก่อน แล้วฮันจากมิตินั้นในชุดขาวดำ ก็ขึ้นลิฟต์มาในชั้นถัดๆ ไป)
จากที่ดูมาทั้งหมดตั้งแต่ Trailer > Teaser > MV
เราสังเกตว่า สไตล์ของเสื้อผ้า บ่งบอกถึงสถานที่ / มิติ นั้นๆ ที่ Stray Kids อยู่
ธีมชุดขาวดำในเมือง คือตอนก่อนที่จะผ่านประตูมายัง Levanter
โลกในมิตินั้นดูเป็นเมืองปกติ มีรถสัญจร มีสัญญาณไฟ
แต่พอผ่านประตูเข้ามาใน Levanter แล้ว เมืองในสถานที่เดิมกลับเป็นโลกที่ล่มสลาย ร้างผู้คน และ Stray Kids ในตอนนี้อยู่ในชุดที่มีสีสันสดใส ขัดแย้งกับสภาพรอบตัวพวกเขา
ตัดมายังเหตุการณ์ที่ดำเนินต่อไปในโลกของ Levanter
บนถนนกลางสี่แยกยามค่ำคืนที่ร้างผู้คน...
ชาน ซึงมิน และฮัน ในชุดที่มีสีสันสดใส กำลังยืนมองดูสัญลักษณ์ชั้นพิระมิด (ปริซึมสีแดง) ที่ติดๆ ดับๆ หน้าลิฟต์ Hellevator ที่สภาพพังพินาศ
ภาพ zoom out ออกมาให้เห็นว่า สถานที่กลางสี่แยกในโลกที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ล่มสลาย อาคารต่างๆ เหลือแต่ซากปรักหักพัง ลิฟต์เบื้องหน้าเหลือแต่ผนังด้านหน้า มีรั้ววางกั้นถนนไม่ให้ผ่านเข้าไป
ณ อุโมงค์ใหญ่ที่มีสภาพหลังถูกซัดกระหน่ำด้วยลมพายุรุนแรง ไอเอ็นกับชางบินมาจากคนละฟากกัน ทั้งสองคนหยุดยืนมองกัน ขณะที่พื้นถนนเบื้องหน้าพวกเขาพังทลายลง เผยให้เห็นห้วงอวกาศที่เหมือนกาแล็กซีอยู่เบื้องล่าง
มิตินี้อาจจะลอยตัวอยู่บนอวกาศก็เป็นได้ มันไม่ใช่โลกในความเป็นจริงเลย
นี่ก็อาจสรุปได้ว่าจักรวาล Stray Kids ที่เดินทางกันมาทั้งหมด ก็ไม่ใช่โลกในความเป็นจริงเช่นกัน มันคือมิติที่อยู่เหนือคำจำกัดความของโลกใบนี้
ในขณะเดียวกัน ท่อน verse ที่ร้องว่า “ในที่สุดฉันก็ได้รู้ว่าต้องปล่อยเธอไป”
ลีโนวมองดูขวดแก้วที่มีผงประกายสีทองด้านใน
ขวดแก้วนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของขวดใส่ดอกไม้ใน MV Hellevator ที่ถูกฮันเขวี้ยงทิ้งแตกกระจาย
และยังถูกเลือกให้เป็นสัญลักษณ์เด่นๆ บน Map for Broken Compass (แผนที่จักรวาล SKZ) อีกด้วย
*ย้อนไปดูการแกะรอยแผนที่ที่เราเขียนไว้ได้ ใน SkzVerse ตอนที่ 1
ตอนจบท่อน pre-chorus ที่ร้องว่า “ฉันรู้สึกถึงแสงที่สาดส่องเข้ามา” ฮยอนจินในเชิ้ตขาว กางเกงดำที่อยู่กลางสี่แยก วิ่งเข้ามาหาแสงที่ฉายลงมายังตัวเขา
เราได้เห็นฉากนี้แบบละเอียด(กว่า) ไปแล้วใน “Levanter Teaser 1”
ซึ่งฮยอนจินคนนี้ ก็ปฏิสัมพันธ์กับฮันคนที่อยู่บนลิฟต์ใน Levanter Traser จังหวะที่ฮันเอานิ้วสัมผัสคลื่นมิติวงน้ำ, จังหวะเดียวกับที่ชานใน Teaser ไขกุญแจปลดล็อคชั้นพิระมิดด้วย แล้วดูเหมือนฮยอนจินในมิตินี้เห็นสัญญาณแสงแล้ววิ่งเข้ามาหา
ลำแสงนั้นพาเขาวาร์ปไปไหนหรือไม่... ไม่รู้
แต่ที่แน่ๆ ณ จุดนั้น กลายเป็นจุดที่มีประตูบานใหม่เกิดขึ้น แล้วจากนั้นกลุ่มของฮยอนจิน ไอเอ็น ลีโนว ในมิติ Levanter นี้ก็เดินมาพบ (เดี๋ยวจะวนมาเขียนถึงต่อไป)
ตัดมาที่กลุ่มของชาน, ซึงมิน, ฮ้น กับเจ้าลิฟต์ Hellevator พังๆ
ชานออกแรงง้างประตูลิฟต์จนมือเต็มไปด้วยบาดแผล
ด้วยพลังกล้ามของเขา (แซว) ประตูลิฟต์ก็มิอาจต้านทาน
ทั้งสามคนเข้ามาเจอสภาพภายในลิฟต์ที่ร่อแร่ มีสายลมพัดหมุนวน
...มันไม่อาจใช้งานได้อีกต่อไปแล้วในมิตินี้
พวกเขาพบตั๋วสู่โลกใบใหม่ภายในลิฟต์นั้น
เราสันนิษฐานว่า ลิฟต์ที่พวกเขาโดยสารใน Trailer ร่วงดิ่งลงมายังนรกชั้นล่างสุด ซึ่งก็คือโลกของ Levanter นี้นี่เอง (สังเกตได้จากเลขชั้นที่เป็นรูปปริซิมสีแดงบนหน้าจอเหนือประตูลิฟต์)
นี่ใช่ไหม ยอดพิระมิดที่ระบบล่อลวงมา
มันไม่ใช่สรวงสวรรค์
มันคือกับดักที่ผูกมัดให้พวกเขายึดติดกับกุญแจที่ระบบส่งมาให้ จนทำให้มองไม่เห็นคำตอบที่แท้จริง
อีกนัยนึง เรามองว่า สายลมใน Levanter ช่วยพัดถล่มโลกจอมปลอมนี้ เพื่อให้ Stray Kids มองเห็นความจริงว่านี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเขาควรอยู่ และพวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพากุญแจและลิฟต์ Hellevator อีกต่อไป
ตัดมายังกลุ่มของฮยอนจิน, ไอเอ็น, ลีโนว ที่เดินมุ่งหน้าไปตามถนน ใบหน้าของทั้งสามคนล้วนมีบาดแผลเช่นเดียวกับ MV Double Knot
ลีโนวหยุดมองนกเหยี่ยวที่บินผ่านไป เหมือนกับจะนำทางพวกเขา
แล้วพวกเขาก็เดินมาพบประตูบานใหม่กลางสี่แยกที่มีเจ้านกเหยี่ยวเกาะรออยู่
มีแสงสปอตไลท์ฉายลงมา ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับฉากที่ฮยอนจินเต้นรำอยู่ในอีกมิติหนึ่ง
ดูเหมือนจะมี Stray Kids บางคนอยู่มากกว่าหนึ่งตัวตนใน Levanter
เพราะลีโนวในฉากมองขวดแก้ว กับไอเอ็นที่อยู่ในอุโมงค์นั้นไม่มีบาดแผลบนใบหน้า
อีกทั้งฮยอนจินที่เต้นรำอยู่อีกมิติ ในตำแหน่งเดียวกันกับประตู
ไอเอ็นชุดเดียวกัน อยู่สองที่ในเวลาเดียวกันนี่ไม่น่าแปลกใจ เพราะมีสองคนในโลกคู่ขนานมาแต่แรก ส่วนคนอื่น เรามองว่าน่าจะอยู่สถานที่เดียวกัน แต่คนละมิติกัน
ในอุโมงค์ ชางบินเก็บปริซึมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชั้นพิระมิดได้ เขาตัดสินใจปล่อยมันทิ้งไป แล้วเผาตั๋วเดินทางสู่โลกใหม่
ทันใดนั้นลิฟต์ Hellevator ที่อยู่ต่อหน้าชาน, ซึงมิน, ฮัน ก็ไฟลูกไหม้
นกเหยี่ยวบินจากประตูไป เหมือนจะหมดหน้าที่ของมันแล้ว
คืนนั้น Stray Kids ทั้ง 8 คนมารวมตัวกัน ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีชมพูม่วง
พวกเขาเห็นดาวตกมากมาย พร้อมกับลำแสงรูปพิระมิดที่กำลังสูญสลายจากยอดมาที่ฐาน
ประตูบานเดิมอยู่ต่อหน้าพวกเขา สภาพแวดล้อมเมืองที่ล่มสลายได้หายไปหมดสิ้น เหลือเพียงทุ่งหญ้าสีชมพูม่วงเวิ้งว้าง และดาวพร่างพราย
ฟิลิกซ์ที่อยู่ในห้วงมิติท่ามกลางกาแล็กซีและหมู่ดาว มีเข็มทิศที่ก่อตัวขึ้นเหนือฝ่ามือเขา เบื้องหน้า มีลำแสงปรากฎขึ้นมาเป็นรูกุญแจจำนวนมาก ราวกับจะบอกว่า ประตูและเส้นทางมีมากมายเหลือเกิน แต่พวกเขาเลือกหนทางเพียงหนึ่งเดียวที่ใจปรารถนา
เรามองว่า มิตินี้น่าจะเป็นโลกแห่งเข็มทิศของฟิลิกซ์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Broken Compass มาตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องจักรวาล Skz และสามารถข้ามผ่านสถานที่-เวลา (space-time) เช่นเดียวกับลิฟต์ Hellevator
ค่ำคืนผ่านพ้น ท้องฟ้าพลันสว่าง ชานเปิดประตูให้ทุกคนก้าวผ่านประตูไป
ไอเอ็นที่เดินรั้งท้าย หยุดหันมองดูโลกฝั่งนี้อย่างอาลัย
ชานเป็นกำลังใจให้ไอเอ็นก้าวผ่านประตูไปสู่อนาคตข้างหน้า
เช่นเดียวกับซีนเต้นในอุโมงค์ ที่เขาตัดสินใจปล่อยคนในอดีตทิ้งไป
และฟิลิกซ์ในมิติของเข็มทิศร้องว่า “It’s all good now”
ณ โลกนอกบานประตู ฟิลิกซ์เต้นอย่างเป็นอิสระอยู่บนกระจก ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีน้ำตาล และท้องฟ้าสีคราม
นี่คือทิวทัศน์ของโลกจริงๆ ที่ไม่ได้ถูกย้อมสีจนดูเพ้อฝันอีกต่อไป
ฉากนี้พาให้นึกถึงจุดเริ่มต้นจักรวาล SKZ ใน “I am NOT” trailer ที่ฟิลิกซ์เต้นอยู่บนดาดฟ้าที่มีกระจกรายล้อม และสุดท้ายเขาเตะกระจกเหล่านั้นแตกเพราะมันสะท้อนภาพสมบูรณ์แบบที่ไม่ใช่ตัวเขา
ณ ตอนนี้ พ้นจากบานประตู Levanter เขาเอาชนะตัวเองได้แล้ว
ฟิลิกซ์กับกระจกใน I am NOT Trailer
กระจกกลายเป็นเวทีสำหรับเขา และเพื่อนๆ Stray Kids ที่มาร่วมเต้นรำบนนั้นด้วยกัน ท่าที่กระทืบเท้าอย่างพร้อมเพรียงกันมันช่างอิมแพ็คมากๆ
Stray Kids ที่เป็นอิสระท่ามกลางทุ่งหญ้าสีน้ำตาล กอดคอกันมองทิวทัศน์ด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางสายลมที่โอบล้อมพวกเขา
พระจันทร์สีขาว และสีแดง เคลื่อนตัวมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวและส่องแสงสว่างจ้า
จบด้วยข้อความว่า
“Step out of Clé”
Stray Kids ปลดปล่อยตัวเองจาก “อดีต” ที่เป็นทั้งบุคคล ความฝัน เส้นทางที่ผ่านมาที่เคยยึดมั่น ถือมั่น จนมองไม่เห็นอนาคตและความเป็นไปได้อื่นๆ ที่ดีกว่า
พวกเขาหลุดพ้นจากวังวนแห่งกุญแจแล้ว
เพราะกุญแจที่แท้จริงอยู่ในตัวพวกเขาเอง
ถึงตอนนี้ เราพบคำตอบที่ซ่อนอยู่ใน Choreography (การออกแบบท่าเต้น) ระหว่าง Levanter กับ Side Effects แล้วว่า
Levanter เป็นเพลงที่คลี่คลายจากสภาพจิตใจที่สับสนวุ่นวายใน Side Effects
จึงสะท้อนออกมาด้วยอะไรหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับท่าเต้นเพลง Side Effects
หากแต่แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ในขณะเดียวกันก็มีความแข็งแกร่งหนักแน่น ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ มั่นคง เป็นอิสระ
จากจุดเริ่มต้นของเพลง Levanter ที่เป็นท่าจบของ Side Effects คือภาคต่อจากตอนจบที่สิ้นหวัง สับสน สงสัยในทางเลือกของตัวเอง
ฮยอนจินที่นอนอยู่ในตอนแรก เป็นตัวแทนของจิตใจที่สับสนหลงทาง และชานช่วยให้เขาลุกขึ้นมาใหม่ ทุกคนพร้อมเดินทางต่อไปในเส้นทางบทใหม่ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
พาร์ทของฟิลิกซ์กับฮยอนจินที่ร้องโต้ตอบกันใน verse ที่ 2 จากเดิมใน Side Effects ที่ขัดแย้งกันรุนแรง ฮยอนจินดึงหัวฟิลิกซ์หงาย คราวนี้กลับกลายเป็นท่าทีที่อ่อนช้อยงดงาม สอดคล้องกับเนื้อเพลงที่ได้ค้นพบคำตอบในจิตใจตัวเองแล้ว
Levanter คือบทสรุปแห่งการตื่นรู้ ปลอบโยนความผิดพลาดที่ผ่านมา และปลดปล่อยตัวเองจากวังวนของสิ่งที่ฉุดรั้งไว้ มุ่งหน้าไปสู่ความเป็นอิสระที่แท้จริง
สิ้นสุดการเดินทางใน Season แรก
ตอนหน้า เราจะมาเก็บตกเหตุการณ์โลกคู่ขนานใน MV “Top” (Japanese Ver)