ว่าด้วยจักรวาล MV มหากาพย์ของ Stray Kids
“Levanter” คือกระแสลมที่พัดอยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
คำนี้ผันมาจากภาษาลาติน “LEVARE” ที่แปลว่า to raise (ลอยขึ้น / สูงขึ้น)
ในบทกวีและวรรณกรรม มักใช้ Levanter เป็นสัญลักษณ์ของ การเปลี่ยนแปลง (change), การเปลี่ยนแปลงรูปทรง (transformation), การเริ่มใหม่ (renewal)
ชานได้แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากบทกวี "The Graveyard by the sea" โดย Paul Valery ในประโยคที่ว่า
The wind is rising! . . . We must try to live!
สายลม จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ในการก้าวต่อไปของพวกเขา หลังจากความสิ้นหวังที่ไม่ว่าจะไล่ตามกุญแจเท่าไหร่ ก็ยังไม่อาจพบคำตอบที่แท้จริงได้
ครั้งนี้พวกเขาต้องการที่จะหลุดพ้น และเริ่มต้นชีวิตบทต่อไป
"Clé : LEVANTER" Trailer
Stray Kids ในชุดโทนสีขาวดำ เดินมาหยุดรอสัญญาณไฟอยู่คนละฟากฝั่งของสี่แยกในเมืองยามค่ำคืน
ไอเอ็น ชางบิน ลีโนว ฮยอนจิน มาจากฝั่งขวา
ฟิลิกซ์ ชาน ซึงมิน ฮัน มาจากฝั่งซ้าย
ย้อนกลับไปก่อนที่พวกเขาจะมารวมตัวกัน...
ณ ชั้น L
ซึงมินในชุดสเวตเตอร์ขาวดำ เดินเข้าลิฟต์ Hellevator ที่ให้บรรยากาศเหมือนใน Trailer ‘Yellow Wood’
ตัวเลขลิฟต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หมายถึงดิ่งลงลึกไปเรื่อยๆ
เมื่อมองลงไปเบื้องล่าง ก็พบ ‘ฮัน’ ที่อยู่ในทุ่งสีชมพูม่วงเหมือนใน MV Hellevater
ซึ่งฮันคนนี้อยู่ในชุดเสื้อสเวตเตอร์สีขาว มีแถบสีแดงคาดที่คอเสื้อด้านหลังแบบมินิมอล
ฮันหันมาและเอื้อมมือสัมผัสอากาศเบื้องหน้า เกิดคลื่นวงน้ำขึ้นในอากาศ ซึงมินจับมือของฮันที่เอื้อมผ่านขึ้นมายังมิติของซึงมิน
ทันใดนั้น ลิฟต์ก็สั่นไหว ไฟติดๆ ดับๆ
ซึงมินผละไปกดปุ่มชั้นต่างๆ ในลิฟต์อย่างลนลาน
ตัดภาพมามุมบน ปรากฏว่าฮันในชุดสเวตเตอร์ลายขาวดำเข้ามาอยู่ในลิฟต์ร่วมกับซึงมิน ประตูลิฟต์ที่เปิดอยู่กำลังปิดลง
เรามองว่า ฮันคนนี้เป็นคนละคนกับฮันในทุ่งสีชมพูม่วง เพราะยังไม่ทันได้ข้ามมิติมา ลิฟต์ก็ประท้วงแล้ว และฮันชุดขาวดำ น่าจะกดลิฟต์เข้ามาจากชั้นอื่น
ลิฟต์กลับมาสว่างตามปกติอีกครั้ง ประตูลิฟต์แปรสภาพเหมือนกระจก เกิดระลอกคลื่นวงน้ำที่ประตู
ฮันเอื้อมมือไปสัมผัสจุดกึ่งกลาง ขณะที่ซึงมินเฝ้ามองอย่างลุ้นระทึก
ณ สี่แยกกลางถนนยามค่ำคืนที่ไร้ผู้คน
ฮยอนจินในชุดเชิ้ตขาว กางเกงดำ รีบวิ่งเข้ามาหาเหมือนเห็นสัญญาณบางอย่าง
ดูเหมือนเขาจะติดอยู่ในมิตินั้นเพียงลำพัง
เมื่อฮันในลิฟต์สัมผัสกับจุดกึ่งกลางของคลื่นวงน้ำ ในจังหวะเดียวกับที่ชานในชุดสเวตเตอร์ขาวดำ ไขกุญแจปลดล็อคลิฟต์ Hellevator ไปยังชั้นพิระมิด (สัญลักษณ์สามเหลี่ยม)
ทันใดนั้น...
แสงก็สาดส่องลงมาที่ฮยอนจินบนถนนราวกับสปอตไลท์ เขาเอื้อมมือขึ้นฟ้าท่ามกลางแสงนั้น
ในลิฟต์ Hellevator ตัวเดิม
ทันทีที่บังชานปลดล็อคลิฟต์ ลิฟต์ก็เกิดอาการสั่นไหว ไฟดับ ตอนนี้ในลิฟต์มีทั้งชาน ซึงมิน และฮัน มาอยู่ด้วยกันแล้ว
ซึ่งตอนแรกดูเหมือนพวกเขาอยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่อยู่คนละมิติกัน
แล้วลิฟต์ก็ร่วงหล่น ดิ่งนรกลงไปยังชั้นล่างสุด
ณ อุโมงค์สำหรับรถแล่นผ่าน
สิ่งต่างๆ อยู่กระจัดกระจายเหมือนเพิ่งถูกสายลมพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง แม้กระทั่งรถที่อยู่บริเวณนั้น
ชางบินในชุดสีดำ พบปริซึมอันหนึ่งที่ตกอยู่บนพื้นถนนในอุโมงค์นั้น
และไอเอ็นในชุดเสื้อเชิ้ตขาวก็อยู่ที่นั่นด้วย
สายลมพัดกระหน่ำอีกครั้ง ขัดขวางไม่ให้ชางบินกับไอเอ็นเข้ามาหากัน
พื้นถนนเบื้องหน้าของทั้งคู่แตกออกเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ เผยให้เห็นอะไรที่เหมือนกับกาแลคซี่อยู่เบื้องล่าง
หรือโลกที่พวกเขาอยู่ตอนนี้คือมิติที่ลอยคว้างอยู่ในอวกาศ???
ฉากนี้ใน MV Levanter จะเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เป็น Stray Kids กลุ่มที่ใส่เสื้อผ้ามีสีสัน
เราไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่ Stray Kids กลุ่มชุดขาวดำ จะไปรวมตัวกันที่สี่แยกก่อนผ่านประตูแรกเข้ามายังมิติของ Levanter หรือไม่ เพราะแม้ผ่านประตูเข้ามายัง Levanter แล้ว ก็ยังมีตัวตนของ Stray Kids ที่อยู่คนละมิติกันอยู่ดี
ณ มิติแปลกประหลาดแห่งหนึ่งท่ามกลางกาแล็กซีและหมู่ดาว
ฟิลิกซ์ดูเหมือนจะเดินทางข้ามผ่านสถานที่-เวลาจากในนั้น
ณ ถนนใหญ่สายหนึ่ง
ฮยอนจิน ไอเอ็น และลีโนว ที่อยู่ในชุดสเวตเตอร์ที่มีสีสัน พากันมุ่งหน้าไปยังจุดหมายหนึ่ง
ทั้งสามคนมีบาดแผลบนใบหน้าเช่นเดียวกับใน MV Double Knot
ลีโนวสังเกตเห็นบางอย่างบนฟ้าและมองตามไป
Stray Kids กลุ่มที่อยู่ในชุดมีสีสันนี้ เป็นกลุ่มที่จะมีบทบาทหลักๆ ต่อไปใน MV Levanter
และเรามองว่า ฉากนี้คือตัวอย่างภาพเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน MV
ส่วนฮยอนจินคนที่อยู่โดดเดี่ยวกลางสี่แยก น่าจะเป็นอีกตัวตนที่ติดอยู่ในอีกมิติหนึ่ง และมารวมกับทุกคนได้ด้วยการเห็นสัญญาณที่เกิดจากการสัมผัสมิติของฮัน หรือชานที่ไขกุญแจปลดล็อคชั้นพิระมิด
กลับมายังซีนเริ่มต้น
ณ สี่แยกแห่งเดิม เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยน
Stray Kids ในชุดโทนขาวดำจากถนนทั้งสองฝั่งก็เดินเข้ามาหากัน
ทันใดนั้น ก็มีคลื่นเสียงประหลาดดังขึ้น พวกเขาได้รับผลกระทบจากคลื่นเสียงนั้นแตกต่างกัน
ส่วนใหญ่ระคายหูอย่างแรง
ชางบิน ฮยอนจิน เจ็บปวดหนักจนต้องก้มลงปิดหูตัวเอง
มีเพียงไอเอ็นที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
เขาหันกลับไปมองทุกคนว่าเป็นอย่างไร และเดินต่อด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ทุกคนล้อมวงกัน มองเข็มทิศในมือฟิลิกซ์ที่หมุนคว้าง แล้วชี้ตรงไปยังทิศหนึ่ง
เมื่อมองตามไป ก็พบว่ามีประตูบานใหม่ปรากฏขึ้นมาอย่างงดงาม
ภาพซูมผ่านรูกุญแจออกไปยังแสงสว่างเบื้องหน้า
จบด้วยกำหนดวันออกอัลบั้ม
เบาะแสสำคัญที่ช่วยต่อจิ๊กซอว์ปริศนา
คือข้อความใน Track list อัลบั้ม <Clé : LEVANTER>
“ผมอยากปกป้องพวกเขา
แต่ผมทำได้เพียงอยู่เคียงข้างพวกเขา
(หรือว่ากุญแจดอกใหม่ๆ ที่เราเฝ้าตามหากัน มันไม่ใช่สำหรับประตูบานใหม่ แต่กลับกลายเป็นกำแพงใหม่ๆ ?)
ในสถานที่เราก้าวผ่านพระจันทร์ไป อยู่ๆ ก็มีเสียงแสบแก้วหูก็ดังขึ้น
ผมที่กำลังมุ่งหน้าเดินไป เห็นพวกพี่ๆ ปิดหูด้วยความเจ็บปวด
พอหันไปมองหาที่มาของเสียงนั้น เจ้าเข็มทิศพังๆ ก็ชี้ตรงไปยังทิศทางหนึ่ง
ประตูบานใหม่
กุญแจที่เราเฝ้าตามหามาตลอดจะรออยู่ที่อีกฝั่งของประตูมั้ยนะ?
ผมรู้สึกได้ว่า นี่จะเป็นจุดสิ้นสุดการเดินทางอันยาวนานของเราแล้ว”
...ความในใจของไอเอ็น เฉลยแล้ว ณ จุดนี้
จากที่ผ่านมาทั้งหมด ไอเอ็นที่มีสภาวะเหมือนนักพยากรณ์ (oracle) เป็นคนที่รับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกคู่ชนาน แต่ไม่อาจยื่นมือเข้าไปแก้ไขเพื่อแทรกแซงหรือเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้
เขาทำได้เพียงคอยอยู่สนับสนุนทุกเส้นทางที่พี่ๆ ตัดสินใจเลือก และร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันจนถึงที่สุด
เปิดเผยตอนจบของ MV ที่ Stray Kids แต่ละคนอยู่ท่ามกลางทุ่งสีน้ำตาล ที่ไม่ใช่โลกในฝันที่ย้อมสีสันสวยงามของระบบ (System) อีกต่อไป
“Levanter" M/V Teaser 1
ชานง้างประตูแล้วเข้าไปในลิฟต์ร้าง พร้อมฮันและซึงมิน
เผยฉากลิฟต์ไฟลุกไหม้ต่อหน้าพวกเขา
ฮยอนจินในชุดเชิ้ตขาว กางเกงดำ เต้นรำอยู่กลางสี่แยกในมิติที่ร้างผู้คน
เมื่อลิฟต์ Hellevator มาถึงชั้นพิระมิด แสงสปอตไลท์ก็สาดส่องลงมาหาเขา
เขาคุกเข่าลงด้วยท่วงท่าที่คว้าแสงนั้นมาไว้กับตัว
ตัดภาพไปยังสถานที่เดิม แต่ตำแหน่งของฮยอนจินท่ามกลางแสงที่ฉายลงมา ถูกแทนที่ด้วยประตูแบบเดียวกันกับที่ปรากฏในตอนท้ายของ "Clé : LEVANTER" Trailer
ฮยอนจิน ไอเอ็น ลีโนว กลุ่มที่ใส่เสื้อผ้ามีสีสัน หยุดยืนอยู่หน้าประตูบานนั้น
และเผยเหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะเกิดชึ้นใน MV
จบด้วยท่อนร้องคีย์หลักของเพลง
I feel the light
ซึ่งซีนฮยอนจินเต้นรำ ดูเหมือนเป็นตัวแทนความรู้สึกนี้
"Levanter" M/V Teaser 2
เผยซีนเต้นท่อน dance break ในอุโมงค์ (แต่ใน MV จะเต้นท่อนนี้ท่ามกลางทุ่งสีน้ำตาล)
และเผยเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดใน MV
จบด้วยท่อนร้องคีย์หลักของเพลง
I wanna be myself
โปรดติดตาม MV Lavanter ในพาร์ทต่อไป
คราวนี้ต้องแบ่งเป็นสองพาร์ทเพราะใน Trailer และ Teaser มีรายละเอียดและเนื้อหาที่ไม่ได้อยู่ใน MV เยอะมาก
ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญ
บทกวีที่เป็นแรงบันดาลใจของเพลงนี้
"The Graveyard by the sea" from Paul Valery.
Comments